บทที่ 44 ปิดท้ายการเรียน ( IS , Comprehensive )
IS
เลือกที่ปรึกษาที่เขามีความชำนาญในเรื่องที่ทำ เพราะเราอาจต้องพึ่งคำปรึกษาเขา
เลือก Style ที่ปรึกษา เช่น ต้องการแบบแนวตามงาน มี Deadline กำหนดส่ง ตามขั้น หรือชอบแนวทำเองแล้วไป update บ้างเฉยๆ แนะนำให้ถามรุ่นก่อนๆ ว่าอาจารย์แต่ละท่านสไตล์ตรงกับที่ตัวเองต้องการหรือไม่
สอบ IS
ไม่ได้ยากอย่างที่คิด อาจารย์ที่ปรึกษาจะอยู่ช่วยอยู่แล้ว ส่วนอาจารย์ที่เป็นกรรมการร่วมจะเป็นคนถาม สิ่งที่ต้องเตรียมตัวคือ Slide ของรุ่น 17/2 และก่อนหน้า จะเป็นการปิ้งแผ่นกระดาษ ไม่อนุญาติ ให้ใช้ Computer หรือ Notebook เนื่องจากกลัวว่าถ้าติดขัด แล้วจะทำให้เสียเวลา(เพราะมีคิวตามกำหนด) จะมีเวลาให้ Present ประมาณ แค่ 15 นาที และอีก 15 นาทีสำหรับการซักถาม (เวลาโดยปกติ แต่มี +/- ได้ในกรณีพิเศษๆ) ดังนั้นมีข้อความปฏิบัติคือ
1. ทำการซักซ้อม เพื่อจะสามารถ Present ได้ตามเวลาที่กำหนด เนื่องจาก ข้อมูลในการทำ IS จะมีมาก แต่เวลามีให้นิดเดียว โดยเฉพาะพวกที่ทำแผนวิจัย จะต้องตัดเอาเฉพาะสิ่งสำคัญๆ
2. อธิบายในสิ่งและสาเหตุที่ทำ แต่งดการโต้เถียงกับอาจารย์ ถ้าอันไหนไม่ได้ทำ ก็รับไปว่าจะไปเพิ่มเติม เพราะหลังจาก Present แล้วจะเป็นเรื่องเฉพาะของ เรากับที่ปรึกษา ว่าจะแก้แค่ไหน (มีแก้ทุกคน นิดๆหน่อย แล้วแต่ที่ปรึกษา)
สอบ Comprehensive
1. สอบตั้งแต่ 8 โมง - 12.00 (4 ชั่วโมง) มีเนื้อหาวิชา Finance , SM , MKT เลือกทำ Part ไหนก่อนก้อได้ เพราะมีหนังสืออยู่ 3 เล่ม แบ่งคนละวิชา
2. ปกติจะใช้หลักการกำหนดเวลาให้แต่ละวิชา อย่างเคร่งครัด เพราะถ้าไม่ผ่านวิชาใดวิชาหนึ่ง ก็คือตกทั้งหมด ต้องสอบใหม่ทุกวิชา โดยส่วนมากจะแบ่งทำตามลำดับดังนี้ อ่าน (40 นาที ) Finance (30 นาที ) , SM ( 1 ชั่วโมง 30 นาที ) , MKT (1ชั่วโมง ) และเวลาที่เหลือไว้ Spare แก้ไข และเข้าห้องน้ำ แต่อย่างไรก็ตามในปีสอบของ 17/2 เนื้อหาวิชา SM มีจำนวนหน้าน้อยลง จากประมาณ 30 หน้าเป็น 20 กว่าหน้า ดังนั้นหลายคนทำข้อสอบเสร็จตั้งแต่ 11.30
3. วิชา Finance ทำตาม Template และอาจเพิ่มเติมเนื้อหาได้ตามสะดวกถ้าเวลาเหลือหรือสังเกตุเห็นหรือเทพ
4. วิชา SM มีอาจารย์ 2 กลุ่ม ซึ่งสอนต่างกัน เอาเป็นเวลาใช้หลักอาจารย์ท่านใดก็ได้ แต่ให้ระมัดระวังไว้อย่างนึงคือ อาจารย์กลุ่มA ที่ไม่เน้น Framework ไม่มีการสอนทำ TOWS แต่ข้อสอบออกนะ แต่ถ้าจะให้ทำถามขั้นตอนอาจารย์ B มันมีขั้นตอนยุ่งยากมากเกินไป
- ดังนั้นสำหรับลูกศิษย์อาจารย์กลุ่ม B ก็ทำตามที่เรียนไป แต่จะต้องมีการตัดขั้นตอนที่ใช้เวลานานๆออกไป เพราะเวลาจำกัดมาก
- ลูกศิษย์กลุ่ม A ใช้Framework วิธี อาจารย์ อัจฉรา แทน ซึ่งมีการใช้ EFAS IFAS ICFAS ในการทำแผนกลยุทธ์ เพราะเข้าใจได้ง่าย แต่จะต้องอ่านเรื่องการทำ TOWS ไปด้วย เพราะออก แต่เราไม่ได้เรียน
(วิธีตาม อ อัจฉรา จะพบได้ในตอนติว Compre นะ)
-MKT ที่เอาไว้ตอนท้ายเพราะบางคนจะเวิ่น ทำให้คุมเวลาไม่ได้ และจะไปกินเวลาวิชาอื่นๆ ยึดหลักง่ายๆ Simplyๆ เข้าไป target บุกตลาดเดียวพอ อย่าเยอะ บุกหลายตลาด เยอะก้อต้องทำ IMC หลายตลาดเยอะตาม Position ก็เอาง่ายๆพอ แต่อย่าเอา ราคา กับ คุณภาพ
-ทุกคนควรจะต้องฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลาก่อนสอบจริง จะได้รู้หลัก รู้ว่าจะเขียนอะไรลงไปได้บ้าง แต่ถ้าใช้เวลานานเกินไม่ต้องตกใจ ตอนแรกๆ ก้เป็นแบบนี้กัน คือทำไม่ทัน ก็ฝึกๆเอา
-ก่อนเข้าห้องสอบ ลองขึ้นไปล่วงหน้าซัก 30 นาที แล้วส่องกระจกดู จะเห็นหน้าชีทสอบเป็นรูปผลิตภัณฑ์ว่าน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ของ17/2 เห็นเป็นรูปกระป๋อง ก็เลยคุยกันข้างหน้าว่าจะแบ่ง Position แบบไหนดี
เลือกที่ปรึกษาที่เขามีความชำนาญในเรื่องที่ทำ เพราะเราอาจต้องพึ่งคำปรึกษาเขา
เลือก Style ที่ปรึกษา เช่น ต้องการแบบแนวตามงาน มี Deadline กำหนดส่ง ตามขั้น หรือชอบแนวทำเองแล้วไป update บ้างเฉยๆ แนะนำให้ถามรุ่นก่อนๆ ว่าอาจารย์แต่ละท่านสไตล์ตรงกับที่ตัวเองต้องการหรือไม่
สอบ IS
ไม่ได้ยากอย่างที่คิด อาจารย์ที่ปรึกษาจะอยู่ช่วยอยู่แล้ว ส่วนอาจารย์ที่เป็นกรรมการร่วมจะเป็นคนถาม สิ่งที่ต้องเตรียมตัวคือ Slide ของรุ่น 17/2 และก่อนหน้า จะเป็นการปิ้งแผ่นกระดาษ ไม่อนุญาติ ให้ใช้ Computer หรือ Notebook เนื่องจากกลัวว่าถ้าติดขัด แล้วจะทำให้เสียเวลา(เพราะมีคิวตามกำหนด) จะมีเวลาให้ Present ประมาณ แค่ 15 นาที และอีก 15 นาทีสำหรับการซักถาม (เวลาโดยปกติ แต่มี +/- ได้ในกรณีพิเศษๆ) ดังนั้นมีข้อความปฏิบัติคือ
1. ทำการซักซ้อม เพื่อจะสามารถ Present ได้ตามเวลาที่กำหนด เนื่องจาก ข้อมูลในการทำ IS จะมีมาก แต่เวลามีให้นิดเดียว โดยเฉพาะพวกที่ทำแผนวิจัย จะต้องตัดเอาเฉพาะสิ่งสำคัญๆ
2. อธิบายในสิ่งและสาเหตุที่ทำ แต่งดการโต้เถียงกับอาจารย์ ถ้าอันไหนไม่ได้ทำ ก็รับไปว่าจะไปเพิ่มเติม เพราะหลังจาก Present แล้วจะเป็นเรื่องเฉพาะของ เรากับที่ปรึกษา ว่าจะแก้แค่ไหน (มีแก้ทุกคน นิดๆหน่อย แล้วแต่ที่ปรึกษา)
สอบ Comprehensive
1. สอบตั้งแต่ 8 โมง - 12.00 (4 ชั่วโมง) มีเนื้อหาวิชา Finance , SM , MKT เลือกทำ Part ไหนก่อนก้อได้ เพราะมีหนังสืออยู่ 3 เล่ม แบ่งคนละวิชา
2. ปกติจะใช้หลักการกำหนดเวลาให้แต่ละวิชา อย่างเคร่งครัด เพราะถ้าไม่ผ่านวิชาใดวิชาหนึ่ง ก็คือตกทั้งหมด ต้องสอบใหม่ทุกวิชา โดยส่วนมากจะแบ่งทำตามลำดับดังนี้ อ่าน (40 นาที ) Finance (30 นาที ) , SM ( 1 ชั่วโมง 30 นาที ) , MKT (1ชั่วโมง ) และเวลาที่เหลือไว้ Spare แก้ไข และเข้าห้องน้ำ แต่อย่างไรก็ตามในปีสอบของ 17/2 เนื้อหาวิชา SM มีจำนวนหน้าน้อยลง จากประมาณ 30 หน้าเป็น 20 กว่าหน้า ดังนั้นหลายคนทำข้อสอบเสร็จตั้งแต่ 11.30
3. วิชา Finance ทำตาม Template และอาจเพิ่มเติมเนื้อหาได้ตามสะดวกถ้าเวลาเหลือหรือสังเกตุเห็นหรือเทพ
4. วิชา SM มีอาจารย์ 2 กลุ่ม ซึ่งสอนต่างกัน เอาเป็นเวลาใช้หลักอาจารย์ท่านใดก็ได้ แต่ให้ระมัดระวังไว้อย่างนึงคือ อาจารย์กลุ่มA ที่ไม่เน้น Framework ไม่มีการสอนทำ TOWS แต่ข้อสอบออกนะ แต่ถ้าจะให้ทำถามขั้นตอนอาจารย์ B มันมีขั้นตอนยุ่งยากมากเกินไป
- ดังนั้นสำหรับลูกศิษย์อาจารย์กลุ่ม B ก็ทำตามที่เรียนไป แต่จะต้องมีการตัดขั้นตอนที่ใช้เวลานานๆออกไป เพราะเวลาจำกัดมาก
- ลูกศิษย์กลุ่ม A ใช้Framework วิธี อาจารย์ อัจฉรา แทน ซึ่งมีการใช้ EFAS IFAS ICFAS ในการทำแผนกลยุทธ์ เพราะเข้าใจได้ง่าย แต่จะต้องอ่านเรื่องการทำ TOWS ไปด้วย เพราะออก แต่เราไม่ได้เรียน
(วิธีตาม อ อัจฉรา จะพบได้ในตอนติว Compre นะ)
-MKT ที่เอาไว้ตอนท้ายเพราะบางคนจะเวิ่น ทำให้คุมเวลาไม่ได้ และจะไปกินเวลาวิชาอื่นๆ ยึดหลักง่ายๆ Simplyๆ เข้าไป target บุกตลาดเดียวพอ อย่าเยอะ บุกหลายตลาด เยอะก้อต้องทำ IMC หลายตลาดเยอะตาม Position ก็เอาง่ายๆพอ แต่อย่าเอา ราคา กับ คุณภาพ
-ทุกคนควรจะต้องฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลาก่อนสอบจริง จะได้รู้หลัก รู้ว่าจะเขียนอะไรลงไปได้บ้าง แต่ถ้าใช้เวลานานเกินไม่ต้องตกใจ ตอนแรกๆ ก้เป็นแบบนี้กัน คือทำไม่ทัน ก็ฝึกๆเอา
-ก่อนเข้าห้องสอบ ลองขึ้นไปล่วงหน้าซัก 30 นาที แล้วส่องกระจกดู จะเห็นหน้าชีทสอบเป็นรูปผลิตภัณฑ์ว่าน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ของ17/2 เห็นเป็นรูปกระป๋อง ก็เลยคุยกันข้างหน้าว่าจะแบ่ง Position แบบไหนดี
.JPG)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น